December 09, 2014

เปรียบเทียบการศึกษาไทยและฟินแลนด์ ทำไม เขาที่หนึ่งเราเกือบโหล่

ฟินแลนด์ ประเทศเล็กๆในยุโรปตอนบน มีประชากรประมาณห้าล้านคน มีความน่าสนใจมากในด้านการพัฒนาคุณภาพคนของเขา คนที่นี่มีคุณภาพ มีชีวิตความเป็นอยู่ดี มีความเหลื่อมลำ้ทางเศรฐกิจน้อยมาก เพราะมีการเก็บภาษีสูงและมีการพัฒนาการศึกษาอย่างจริงจัง


ในการสำรวจประเมินผลดัชนีทางการศึกษาล่าสุด
นักเรียนของฟินแลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักเรียนที่มีคุณภาพที่สุดในโลกการจัดอันดับนี้ทำโดยองค์กรความร่วมมือทางเศรฐกิจและพัฒนาซึ่ง้ใช้รูปแบบการวัดผลที่เน้นวัดความรู้ในการแก้ปัญหาและการใช้ภาษาของคนทั่วโลกที่ชื่อ PISA (Program For International student Assessment )

สิ่งที่น่าแปลกคือ การจัดการศึกษาของเขากับของเรามันช่างตรงกันข้ามจริงๆครับ
เรื่องแรก ที่ฟินแลนด์จะให้เด็กเรียนเมื่ออายุหกเจ็ดขวบ เขาไม่เน้นโรงเรียนอนุบาลเพราะอยากให้เด็กอยู่กับครอบครัวเขาเชื่อว่าครอบครัวให้ความรัก ความรู้และถ่ายทอดวัฒนธรรม สร้างสิ่งดีงามให้เด็กได้ดีกว่าโรงเรียนอนุบาลส่วนบ้านเรา แข่งกันเข้าอนุบาล เดี๋ยวนี้มีติวเข้าอนุบาลกันแล้ว

เรื่องที่สอง เด็กที่นี่เรียนไม่เกินวันละห้าชั่วโมง (ในระดับประถม) ด้วยแนวคิดที่จะให้เด็กมีเวลาทำสิ่งที่ชอบกิจกรรมที่สนใจส่วนเด็กไทย อัดกันเข้าไป

เรื่องที่สาม ห้องเรียนเขากำหนดให้มีเด็กห้องละ 12 คนมากสุดก็ 20 คนครับโรงเรียนยิ่งดีก็ยิ่งจำกัดจำนวนเด็กต่อห้อง เพราะเขาจะพัฒนาคน และคนแต่ละคนไม่เหมือนกันเขาอยากพัฒนาศักยภาพที่เด็กแต่ละคนมี การดูแลเป็นรายคนจึงสำคัญส่วนของเรา บางโรง ห้องละ 50 คนครับ

เรื่องที่สี่ เขาไม่ให้เกรดเฉลี่ยมาเป็นตัวสร้างความภูมิใจ หรือ อับอายให้เด็กการเรียนคือการพัฒนาแต่ละคนไม่ใช่การแข่งขัน ประเทศนี้จึงไม่มีเกรดเฉลี่ยครับ

เรื่องที่ห้า การสอบเขาจะไม่ใช้ข้อสอบมาตรฐาน มาเป็นตัววัดนักเรียนทั้งระเทศเขาให้โรงเรียนกำหนดข้อสอบที่แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโรงเรียน

เรื่องที่หก เขาจ้างผู้อำนวยการมาบริหาร และให้กรรมการโรงเรียนดูแล ผลงานไม่ดีก็เชิญออกได้
เขาไม่ได้ใช้ระบบราชการ ระบบวิ่งเต้นเอาใจนักการเมือง เอาใจผู้ใหญ่ในกระทรวงหรือใครมีอายุราชการนานแค่ไหนโรงเรียนเขาจึงมีคุณภาพครับ

เรื่องสุดท้ายของวันนี้ (ความจริงมีอีกเยอะครับ) คือ ครูของเขาทุกคนตั้งใจอยากเป็นครูคนที่เก่งที่สุดของประเทศจะแข่งกันเป็นครู ครูทุกคนจบการศึกษาด้านครูในระดับปริญญาโทส่วนใครเรียนด้านอื่นก็ต้องไปต่อ ปอโทด้านครูครับจึงมาสมัครสอนได้

แค่นี้คงพอมองออกนะครับว่าเราทำการศึกษาตรงข้ามเขาขนาดนี้ผลงานมันเลยออกมาตรงข้ามกันครับ


บทความโดย
ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์@eduzones.com

คำขวัญวันเด็กประจำปี 2558 “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักนายกรัฐมนตรี เผยแพร่คำขวัญวันเด็กประจำปี 2558 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. โดยเขียนด้วยลายมือ ความว่า


“ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”

โครงการ UNDO กบข. - แบบฟอร์มขอกลับไปใช้สิทธิบำนาญแบบเดิม

โครงการ UNDO กบข.  แบบฟอร์มขอกลับไปใช้สิทธิบำนาญแบบเดิม 


ภาพจาก ครูบ้านนอกดอทคอม
ข่าวการศึกษา อ่านข่าวทั้งหมด
ข่าวการศึกษา